จะสาธิตและอธิบายการวั
รูปแสดง ไดโอดดี เข็มไม่ขึ้น 1 ครั้ง
รูปแสดง ไดโอดเสีย เข็มไม่ขึ้นเลยทั้ง 2 ครั้ง คือขาด
เรียนช่างอิเล็กทรอนิกส์ ไล่ดู 29 เรื่อง ในเว็ปนี้ โดยเปลี่ยนหัวข้อที่ด้านล่างสุด เช่น การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนวทางซ่อม สอนใช้งาน Multi Function Tester TC1... เว็ปไชต์เพื่อการศึกษาเรียนรู้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานเพื่องานซ่อม
จะสาธิตและอธิบายการวั
วัดไดโอดบริดจ์ง่ายๆ เหมือนกับการวัดไดโอด 4 ตัว เพราะข้างในของไดโอดบริดจ์มีไดโอด 4 ต่อกันอยู่ ลักษณะการต่อมีมาตรฐานตำเหน่งขาแน่นอนและชัดเจน ต้องจำภาพลักษณะวงจรข้างในให้ได้หรือบันทึกรูปไว้ดูก็ได้ หลังจากดูรูปวงจรนี้ 2-3 รอบแล้วและวัดอุปกรณ์จริงก็จะจำวงจรข้างในได้ ไดโอดบริดจ์เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญของภาคจ่ายไฟดังนั้นการวัดดีเสียตัวนี้เป็นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ตำเหน่งขาไดโอดบริดจ์และวงจรข้างในมีตำเหน่งขาและมาตรฐานการต่อที่แน่นอน ไม่ว่าจะสลับด้านอย่างไร วงจรข้างในก็จะยังเหมือนเดิมตามรูป ให้สังเกตทิศทางและเส้นทางของไดโอดแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางคือเส้นสีแดงและเส้นสีน้ำเงิน โดยแต่ละเส้นทางเริ่มที่ขา - และไหลไปยังขา +
ที่ตัวไดโอดบริดจ์จะมีชื่อขา + - AC และ AC ทั้งหมด 4 เพื่อใช้ในการอธิบายให้เข้าใจง่ายๆจะใส่ตัวเลขเข้าไปเป็น AC1 AC2 ตามรูป ให้สังเกตเพิ่มอีกว่าขา - จะอยู่ใกล้ขา AC1 และขา + จะอยู่ใกล้ขา AC2
ไดโอดบริดจ์มี 4 ขา คือ ขา AC ขา AC ขา + และ ขา - ไดโอดบริดจ์ใช้กับไฟ 220VAC ในวงจรเร็คติฟายเออร์มีระดับกระแสตั้งแต่แอมป์ต่ำเช่น 1A จนถึงแอมป์สูงเช่น 50A ยกตัวอย่างเบอร์ KBPC5010 ทนกระแส 50A 1000V ตัวถังหรือเคสของไดโอดบริดจ์มีแบบเคสโลหะ และเคสพลาสติก ก่อนวัดต้องรู้จักและจำวงจรข้างใน วงจรไดโอดบริด 4 ขา ตามรูปด้านล่างนี้ให้ได้ก่อน
Test bridge rectifier with multimeter .
Check internal circuit of bridge rectifier before testing .
Note : Notice arrow or direction of diode from - to + terminal.
It has 2 branches : 2 upper diode and 2 other didoe .
วัดตรงขา + และ - จะเจอได้ไดโอด 2 ตัว คือ 0.5V + 0.5V = 1V วัดได้ค่าโดยประมาณ
ถ้าไดโอดปกติดีจะวัดเจอไดโอด 2 ตัวนี้ และแสดงว่าแรงดันที่ตกคร่อมไดโอด 2 ตัว
Bridge recififier will dispaly around 1V ( 0.5V for 1 diode and 0.5V for 1 diode )
ระหว่างขา AC กับ AC ทิศทางไดโอดจะกั้นกระแสไว้หมดจึงไม่มีกระแสไหลเลย ไดโอดบริดจ์ดีจะวัดได้ OL ให้ดูวงจรข้างในด้านบนประกอบ
ดูตัวอย่างไดโอดบริดจ์ 4 ขา เบอร์อื่นๆ เพิ่ม เมื่อวัดด้วยมัลติมิเตอร์แบบเข็ม
ไดโอดบริดจ์ 4 ขาวิธีวัด ไดโอดบริดจ์ วัดไดโอด 4 ขา
1. วัดตามหลักง่ายๆ คือ วัดขา AC กับขา AC ทั้ง 2 ต้องไม่ซ๊อตหรือต่อถึงกัน เนื่องจากไฟ AC สายไลน์กับสายนิวทรอลไม่ได้ช๊อตถึงกัน สลับสายวัดเข็มก็ต้องไม่ขึ้นเช่นกัน ใช้ย่านวัด Rx1 หรือ Rx10 ก็ได้
วัดขา AC กับขา AC เข็มต้องไม่ขึ้น2 ขา + กับ ขา - ตามหลักง่ายๆกระแสไฟ DC สามารถไหลได้ทิศทางเดียว การวัดขา + กับ ขา - ต้องวัดเข็มขึ้น 1 ครั้งและเข็มไม่ขึ้น 1 ครั้งนั่นคือไดโอดบริดจ์ ดี ถ้าเข็มขึ้นสุดสเกลทั้ง 2 ครั้งคือซ๊อตและเข็มไม่ขึ้นเลยสักครั้งคือขาด
3. วัดขา + กับขา AC ด้านบน กับขา AC ด้านล่าง ให้ดูวงจรข้างในของวงจรไดโอดบริด 4 ขา ด้านบน การวัดแบบนี้คือการวัดไดโอดทีละตัวโดยยึดขา + เป็นหลักแล้ววัดเทียบกับขา AC ทั้ง 2 นั้นถ้าไดโอดดีต้องวัดแล้วเข็มขึ้น 1 ครั้งและเข็มไม่ขึ้น 1 ครั้ง กรณีไดโอดเสียแบบขาดคือวัดแล้วเข็มไม่ขึ้นเลยสักครั้ง เสียแบบซ๊อตคือวัดแล้วเข็มขึ้นสุดสเกลทั้ง 2 ครั้ง ( 0 Ohm )
4. วัดขา - กับขา AC ด้านบน กับขา AC ด้านล่าง ให้ดูวงจรข้างในของวงจรไดโอดบริด 4 ขา ด้านบนอีกเช่นกัน การวัดแบบนี้คือการวัดไดโอดทีละตัวโดยยึดขา - เป็นหลักแล้ววัดเทียบกับขา AC ทั้ง 2 นั้นถ้าไดโอดดีต้องวัดแล้วเข็มขึ้น 1 ครั้งและเข็มไม่ขึ้น 1 ครั้ง กรณีไดโอดเสียแบบขาดคือวัดแล้วเข็มไม่ขึ้นเลยสักครั้ง เสียแบบซ๊อตคือวัดแล้วเข็มขึ้นสุดสเกลทั้ง 2 ครั้ง ( 0 Ohm )
TVS diode คือไดโอดที่ทำหน้าที่ป้องกันวงจรและอุปกรณ์ตัวอื่นจากแรงดันทรานเซียนต์ แรงดันทรานเซียนต์อาจเกิดจากฟ้าผ่า และ การเปลี่ยนแปลงของแรงดันที่รวดเร็วเนื่องจากสาเหตุต่างๆในวงจรเองหรือมาจากแหล่งภายนอกวงจร TVS ย่อมาจาก Transient Voltage Suppressor บางคนก็เรียกว่า ไดโอด TVS อุปกรณ์หลายตัวไม่สามารถทนแรงดันทรานเซียนต์ได้ เช่นรอยต่อข้างในอาจทะลุเสียหาย การทำงานผิดปกติ คุณสมบัติความเป็นฉนวนเปลี่ยนไป ดังนั้นจึงมีการออกแบบวงจรป้องกันแรงดันทรานเซียนต์เสริมเข้าไปในวงจรหลัก เบอร์ของ TVS diode ที่ช่างคุ้นกันจะขึ้นต้นประมาณ 1.5KE7.5A , 15KPA100CA โดย 1.5K มีความหมายถึงไดโอด TVS ทนได้สูงสุด 1500W Peak Pulse Power และ 15K ทนได้สูงสุด 15000W Peak Pulse Power ตัวเลขที่อยู่ด้านหลังบอกแรงดันที่มันทำงาน ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์สำหรับการหาเบอร์แทน ตัวเลขที่อยู่ในเบอร์บอกสเปคของตัวอุปกรณ์ ไดโอด TVS แบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อยคือ
1. แบบทำงานป้องกัน 1 ทาง ( Uni-directional ) เบอร์จะลงท้ายด้วย A เช่น 1.5KE7.5A
2. แบบทำงานป้องกัน 2 ทาง ( Bi-directional ) เบอร์จะลงท้ายด้วย CA เช่น 15KPA100CA
ตัวต้านทานปรับค่าได้ที่มี 3 ขามีชื่อเรียกอีกชื่อว่าโพเทนชิโอมิเตอร์ (potentiometer)เมื่อนำไปใช้ลดหรือเพิ่มความดังของเสียงเรียกว่าโวลลุ่ม ค่าที่นิยมใช้และช่างมีค่าเหล่านี้เก็บไว้เป็นอะไหล่สำรอง 1K 2K 5K 10K 20K 100K และค่าอื่นๆ มีวิธีการวัดที่เหมือนกันมีรายละเอียดดังนี้
1. อ่านค่าความต้านทานที่ตัวต้านทานปรับค่าได้ ตามรูปตัวอย่างนี้ค่า 10K
ตัวต้านทานปรับค่าได้ ค่า 10K2. ปรับย่านวัดของมัลติมิเตอร์ไปที่ย่านวัดที่เหมาะสม เช่นตัวต้านทานปรับค่าได้ค่า 10K ใช้ย่านวัด X1K , ค่า 1K ใช้ย่านวัด X100 เป็นต้น
3. เช็คตอนเป็นตัวต้านทานค่าคงที่ วัดขา 1 และ 3 แล้วให้มองว่าเป็นตัวต้านทานค่าคงที่ เช่นค่า 10K
ควรจะวัดค่าได้ใกล้เคียงกับค่า 10K จึงจะเป็นตัวต้านทานที่ดี ถ้าเสียคือวัดไม่ขึ้นค่าความต้านทานเลย
ได้ค่าน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมากหรือสูงกว่าที่ควรจะเป็นมากก็เสีย
4. เช็คตอนเป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ ให้วัดขา 1 และขา 2 เมื่อหมุนแกนเพื่อปรับค่าความต้านทานควรจะเปลี่ยนตามองศาการหมุน เช่นค่า 10K ควรจะเพิ่มหรือลดในช่วง 0-10K และ จาก 10K-0 Ohm ถ้าหมุนแกนแล้วค่าความต้านทานไม่เปลี่ยนตามการหมุนคือ VR เสีย
5. เช็คตอนเป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ ให้วัดขา 2 และ 3 เมื่อหมุนแกนเพื่อปรับค่าความต้านทานควรจะเปลี่ยนตามองศาการหมุน เช่นค่า 10K ควรจะเพิ่มหรือลดในช่วง 0-10K และ จาก 10K-0 Ohm ถ้าหมุนแกนแล้วค่าความต้านทานไม่เปลี่ยนตามการหมุนคือ VR เสีย